โรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the Knee) เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนภายในข้อเข่าค่อยๆ เสื่อมสภาพและสึกหรอไป ส่งผลให้เกิดการเสียดสีกันระหว่างกระดูก ซึ่งทำให้เกิดอาการปวด ข้อฝืด และข้อติดแข็งเมื่อเคลื่อนไหว พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการจะรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวัน

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

  1. การเสื่อมตามอายุ: กระดูกอ่อนที่ข้อเข่าเสื่อมลงตามอายุ ทำให้เกิดการเสียดสีของกระดูก
  2. น้ำหนักตัวมาก: น้ำหนักที่มากจะเพิ่มแรงกดบนข้อเข่า ทำให้ข้อเสื่อมเร็วขึ้น
  3. การใช้งานข้อเข่ามากเกินไป: เช่น การเดินนานๆ การขึ้นลงบันได หรือการนั่งพับเพียบบ่อยๆ
  4. อุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ: การบาดเจ็บที่ข้อเข่าซ้ำๆ หรือการผ่าตัดที่ข้อเข่า
  5. ความผิดปกติของโครงสร้างข้อเข่า: เช่น ขาโก่งหรือขาแอ่น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น

อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม

  • ปวดข้อ: อาการปวดมักเกิดขึ้นเมื่อลงน้ำหนักหรือเคลื่อนไหว และดีขึ้นเมื่อพัก
  • ข้อฝืดและตึง: โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือหลังการพักนิ่งเป็นเวลานาน
  • ข้อบวมและอักเสบ: เกิดจากการสะสมของของเหลวในข้อ
  • ข้อเข่าติดขัด: ทำให้ขยับข้อได้ยาก และบางครั้งอาจมีเสียงดังคลิกหรือกระดูกเสียดสีกัน
  • ขาอ่อนแรง: กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าจะอ่อนแรง ทำให้เดินไม่มั่นคงและเสี่ยงต่อการหกล้ม

วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

  1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด:
  • การใช้ยา: ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือยาแก้อักเสบ NSAIDs ช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบ
  • การฉีดสารหล่อลื่น: ฉีดสารไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปในข้อเพื่อเพิ่มการหล่อลื่นและลดแรงเสียดสี
  • การใช้เครื่องพยุงข้อเข่า: เช่น อุปกรณ์พยุงหรือสายรัดข้อเข่าเพื่อลดแรงกดบนข้อ
  • การลดน้ำหนัก: ช่วยลดแรงกดบนข้อเข่า ลดอาการปวดและชะลอการเสื่อม
  1. การรักษาด้วยการผ่าตัด:
  • การผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscopy): เพื่อทำความสะอาดและขจัดเศษกระดูกหรือกระดูกอ่อนที่สึกหรอ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า: สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือการรักษาแบบอื่นๆ ไม่ได้ผล

การรักษาทางกายภาพบำบัด

  1. การออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง (Strengthening Exercises): เน้นกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เช่น กล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อสะโพก เพื่อช่วยลดแรงกดบนข้อเข่า
  2. การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching Exercises): เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า ลดความฝืดและความตึง
  3. การปรับท่าทางในการเดินและเคลื่อนไหว (Gait Training): ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำในการเดิน ยืน และขึ้นลงบันไดอย่างถูกต้อง เพื่อลดแรงกระแทกบนข้อเข่า
  4. การใช้อุปกรณ์ช่วย (Assistive Devices): เช่น ไม้เท้า หรือที่จับเพื่อช่วยในการเดิน ลดแรงกดบนข้อเข่า
  5. การบำบัดด้วยความร้อนและเย็น (Heat and Cold Therapy): เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
  6. การนวดและการใช้เทคนิคบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy): เพื่อปรับสมดุลและการเคลื่อนไหวของข้อต่อให้เหมาะสม

การรักษาทางกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดอาการปวด ปรับปรุงการเคลื่อนไหว และชะลอการเสื่อมของข้อเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อรักษาควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top